tag:blogger.com,1999:blog-89510192243060094952024-03-13T06:17:01.747-07:00Mathematic Experiences For Early Childhoodpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.comBlogger16125tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-18112276249246528322010-03-09T12:11:00.000-08:002010-03-09T12:58:34.509-08:00<span style="color:#33cc00;"><br /><span style="font-size:180%;">วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553</span></span><br /><a name="949684161659848960"></a><br /><a href="http://lek501.blogspot.com/2010/03/blog-post_08.html"><span style="font-size:180%;color:#ff6600;">ข้อสอบปลายภาค วิชาการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย</span></a><span style="color:#ff6600;"><br /></span><strong><span style="font-size:180%;">1.) คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยต่างกับคณิตศาสตร์ประถมศึกษาหรือไม่ พร้อมให้เหตุผล</span></strong><br /><span style="color:#ff0000;">ตอบ </span><span style="font-size:130%;">เหมือนกัน เพราะการสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเป็นการเตรียมความพร้อมด้านทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อไปศึกษาต่อในระดับประถมศึกษา โดยธรรมชาติของการเรียนรู้ทักษะคณิตศาสตร์ ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนจากง่ายไปสู่ยาก โดยเฉพาะการเรียนรู้เรื่องจำนวน หากเด็กยังไม่เข้าใจความหมายของจำนวน เด็กก็ไม่สามารถเรียนรู้ทักษะอื่นๆที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การบวก ลบ ต่อไปได้ ดังนั้นการพัฒนาทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องจัดประสบการณ์ด้านคณิตศาสตร์ตั้งแต่ระดับเด็กปฐมวัยเพื่อให้รู้ทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ไปศึกษาต่อในระดับประถมศึกษาซึ่งมีเนื้อหาที่เกี่ยวโยงกันในระดับปฐมวัย จึงเป็นสิ่งที่ครูจะละเลยไม่ได้ สิ่งที่ครูต้องตระหนักอย่างมากคือ จะใช้วิธีการใดที่จะทำให้เด็กเกิดทักษะคณิตศาสตร์ได้อย่างเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์</span><br /><span style="font-size:180%;">2.) การจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยผู้สอนต้องศึกษาเรื่องใดและมีหลักการจัดประสบการอย่างไร</span><br /><span style="color:#ff0000;">ตอบ </span><span style="font-size:130%;">ผู้สอนควรศึกษาสาระสำคัญทางคณิตศาสตร์ของแต่ละสาระ ในกรอบมาตราฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย และเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ซึ่งประกอบด้วย 5 สาระ</span><br /><span style="font-size:130%;">สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ</span><br /><span style="font-size:130%;">สาระที่2 การวัด</span><br /><span style="font-size:130%;">สาระที่ 3 เรขาคณิต</span><br /><span style="font-size:130%;">สาระที่ 4 พีชคณิตสาระที่ </span><br /><span style="font-size:130%;">5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น </span><br /><span style="font-size:130%;">หลักการสอนคณิตศาสตร์ครูปฐมวัยที่ดีนอกจากจะเข้าใจพัฒนาการเด็ก ธรรมชาติของการเรียนรู้ของเด็ก และขอบข่ายของหลักสูตรอย่างลึกซึ้งแล้ว ยังจะต้องเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจหลักการสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยอย่างดีด้วย</span><br /><span style="font-size:130%;">1. สอนให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันการเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเด็กมองเห็นความจำเป็นและประโยชน์ของสิ่งที่ครูกำลังสอน ดังนั้นการสอนคณิตศาสตร์แก่เด็กปฐมวัยจะต้องสอดคล้องกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน</span><br /><span style="font-size:130%;">2. เปิดโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ทำให้ “พบคำตอบด้วยตนเอง” ครูปฐมวัยที่มีประสิทธิภาพ จะต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์หลากหลายแบบ และเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมมีความสะดวกสบายและยืดหยุ่น มีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้หยิบถือเล่นวัตถุปละพบปะผู้คน สภาพการณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวจะสนับสนุนให้เด็กได้ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง และพัฒนาความคิดและความคิดรวบยอดได้เองในที่สุด</span><br /><span style="font-size:130%;">3. มีเป้าหมายและมีการวางแผนอย่างดีการสอนคณิตศาสตร์เด็กปฐมวัยโดยวิธีเน้นให้เด็กเรียนรู้จากการทำกิจกรรมด้วยตนเอง มิใช่เป็นการปล่อยให้เด็กเล่นไปตามยถากรรม แต่ทั้งนี้ครูจะต้องมีการวางแผนและเตรียมการเพื่อให้เด็กค่อย ๆ พัฒนาการเรียนรู้ขึ้นเอง และเป็นไปตามแผนที่ครูวางไว้</span><br /><span style="font-size:130%;">4. เอาใจใส่ในเรื่องการเรียนรู้และลำดับขั้นของการพัฒนาความคิดรวบยอดของเด็กสิ่งสำคัญที่ครูจะต้องคำนึงถึงในการส่งเสริมประสบการณ์ทางคณิตศาสตร์ก็คือ ครูจะต้องมีความเอาใจใส่ในเรื่องการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะลำดับขั้นการพัฒนาความคิดรวบยอด และทักษะทางคณิตศาสตร์ โดยคำนึงถึงหลักทฤษฎีที่กล่าวมาแล้ว</span><br /><span style="font-size:130%;">5. ใช้วิธีการจดบันทึกพฤติกรรมหรือระเบียบพฤติการณ์ เพื่อใช้ในการวางแผนและจัดกิจกรรมวิธีการที่จะช่วยให้ครูวางแผนและจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็ก ทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม ก็คือ การจดบันทึกด้านทัศนคติ ทักษะ และความรู้ความเข้าใจของเด็กในขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ และขณะที่เด็กเล่นอย่างเสรีในหลาย ๆ สถานการณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูก</span><br /><span style="font-size:130%;">. ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เดิมของเด็ก เพื่อสอนประสบการณ์ใหม่ ในสถานการณ์ใหม่ ๆประสบการณ์ทางด้านคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย อาจเกิดจากกิจกรรมเดิมที่เคยทำมาแล้ว หรือเพิ่มเติมขึ้นอีก ถึงแม้ว่าเป็นเรื่องเดิมแต่อาจอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน</span><br /><span style="font-size:130%;">7. รู้จักใช้สถานการณ์ขณะนั้นให้เป็นประโยชน์ครูปฐมวัยที่เชี่ยวชาญย่อมรู้จักใช้สภาพการณ์ที่กำลังเป็นอยู่ และเห็นได้ขณะนั้นมาทำให้เกิดการเรียนรู้ด้านจำนวน </span><br /><span style="font-size:130%;">8. ใช้วิธีการสอดแทรกกับชีวิตจริง เพื่อสอนความคิดรวบยอดที่ยาก ๆ การสอนความคิดรวบยอดเรื่องปริมาณ ขนาด และรูปร่างต่าง ๆ จะต้องอาศัยการสอนแบบค่อย ๆ สอดแทรกไปตามธรรมชาติ อาจใช้วิธีการสนทนาพูดคุยแบบตะล่อมเข้าหา</span><br /><span style="font-size:130%;">9. ใช้วิธีให้เด็กมีส่วนร่วมหรือปฏิบัติการจริงเกี่ยวกับตัวเลขเช่นในวันที่มีอากาศผิดปกติ ครูควรให้เด็กได้อ่านเทอร์โมมิเตอร์อันใหญ่ที่แขวนอยู่ในห้องเรียน และมีการบันทึกอุณหภูมิลงในปฏิทินด้วย เพื่อเปรียบเทียบกับอุณหภูมิในวันอื่น ๆ และใช้ในการอภิปรายเรื่องการเปลี่ยนแปลงของอากาศ การนับเลขอย่างอื่น</span><br /><span style="font-size:130%;">10. วางแผนส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ทั้งที่โรงเรียนและบ้านอย่างต่อเนื่องในการวางแผนการสอน ครูควรวิเคราะห์และจดบันทึกด้วยว่ากิจกรรมชนิดใดที่ควรส่งเสริมให้มีบ้านและที่โรงเรียน โดยยึดถือความพร้อมของเด็กเป็นรายบุคคลเป็นหลัก และมีการวางแผนร่วมกันกับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองได้ทราบว่า ตนเองควรส่งเสริมลูกได้อย่างไรและในเรื่องใด เป็นทั้งการตอกย้ำในเรื่องเดิม และการขยายขอบเขตของการเรียนรู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น</span><br /><span style="font-size:130%;">11. บันทึกปัญหาการเรียนรู้ของเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อแก้ไขปรับปรุงนอกจากนี้ครูบางคนอาจใช้วิธีจดบันทึกชื่อของเด็กไว้ใต้หัวข้อหนึ่ง ๆ เพื่อให้ทราบว่าเด็กคนใดยังไม่มีความเข้าใจ และต้องจัดกิจกรรมเพิ่มเติมอีก12. คาบหนึ่งควรสอนเพียงความคิดรวบยอดเดียวการสอนคณิตศาสตร์เด็กปฐมวันในแต่ละคาบ ครูควรสอนเพียงความคิดรวบยอด (Concept) เดียว เช่น เรื่องเพิ่มหรือลด สำหรับเรื่องการเพิ่มหรือการบวก (Addition) นับว่าเป็นคณิตศาสตร์ขั้นแรกสุดที่เด็กอนุบาลเรียนรู้ได้ เริ่มตั้งแต่ “เราต้องการบล็อกอีกอันจึงจะพอนะ” จากนั้น เด็กจะเรียนรู้การลดหรือการลบ (Subtraction) เช่น “ถ้าให้บล็อกเธอไปอีกอันเราก็มีบล็อกเท่ากันนะซิ” นี่แสดงว่าเด็กสามารถเข้าใจเรื่องการลบและการบวกไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้เด็กจะต้องมีความเข้าใจเรื่องการบวกมาก่อนแล้ว โดยอาศัยกิจกรรมที่ครูจัดให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง มีการนับกันจริง ๆ จึงเกิดการเรียนรู้ได้13. เน้นกระบวนการเล่นจากง่ายไปยากการสร้างความคิดรวบยอดเกี่ยวกับตัวเลข (Concept of Number) ของเด็กปฐมวัยจะต้องผ่านกระบวนการเล่น มีทั้งแบบจัดประเภท (Classifying) เปรียบเทียบ (Commparing) และจัดลำดับ (Ordering) กระบวนการเล่นเหล่านี้ยังต้องอาศัยการนับ เศษส่วน รูปทรงและเนื้อที่ว่าง การวัด การจัดและการเสนอข้อมูล ซึ่งล้วนแต่เป็นพื้นฐานไปสู่ความเข้าใจคณิตศาสตร์ขั้นสูงที่เป็นนามธรรมต่อไป</span><br /><span style="font-size:130%;">14. ครูควรสอนสัญลักษณ์ตัวเลขหรือเครื่องหมายเมื่อเด็กเข้าใจสิ่งเหล่านั้นแล้วการใช้สัญลักษณ์ตัวเลขหรือเครื่องหมายกับเด็กปฐมวัยจะทำได้ก็ต่อเมื่อเด็กได้ฝึกฝนจนเข้าใจความหมายดีแล้ว</span><br /><span style="font-size:130%;">15. ต้องมีการเตรียมความพร้อมในการเรียนคณิตศาสตร์การเตรียมพร้อมเด็กให้เก่งคณิตศาสตร์นั้น จะต้องฝึกให้เด็กได้พัฒนาการทางด้านสายตาก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าหากเด็กไม่สามารถใช้สายตาในการจำแนกจัดแบ่งประเภทแล้ว เด็กก็จะมีปัญหาด้านการเรียนรู้กับคณิตศาสตร์ได้</span><br /><span style="font-size:180%;">3.) จงเลือกและอธิบายสาระทางคณิตศาสตร์ที่ท่านทราบมา 2 สาระ</span><br /><span style="color:#ff0000;">ตอบ </span><span style="font-size:130%;">สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ</span><br /><span style="font-size:130%;">1. จำนวนนับใช้บอกจำนวนของสิ่งต่างๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">2. จำนวนนับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า...เป็นจำนวนที่นับเพิ่มขึ้นทีล่ะหนึ่งตามลำดับ</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ศูนย์ไม่ใช่จำนวนนับ</span><br /><span style="font-size:130%;">4. ตัวเลขเป็น เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนแสดงจำนวน</span><br /><span style="font-size:130%;">5. สัญลักษณ์พื้นฐานที่ใช้เขียนแสดงจำนวน เรียกว่า เลขโดด ในระบบฐานสิบมี 10 ตัวดังนี้ตัวเลขฮินดูอารบิก ได้แก่ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9ตัวเลขไทย ได้แก่ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙อ่านว่า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ตามลำดับ</span><br /><span style="font-size:130%;">6. จำนวนสองจำนวนเมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน จะมีค่าเท่ากัน มากกว่ากัน หรือ น้อยกว่ากันอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว</span><br /><span style="font-size:130%;">7. การเรียงลำดับจำนวนอาจเรียงจากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหาน้อย</span><br /><span style="font-size:130%;">8. การบอกอันดับที่ของสิ่งต่างๆ จะต้องกำหนดสิ่งเริ่มต้นก่อน แล้วจึงจัดอันดับ</span><br /><span style="font-size:130%;">9. ที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ที่สี่ ที่ห้า... เป็นการบอกอันดับที่</span><br /><span style="font-size:130%;">10. การรวมตัวเป็นการนับรวมจำนวนต่างๆ สองกลุ่ม ได้ผลรวมมากขึ้น</span><br /><span style="font-size:130%;">11. การแยกเป็นการนำจำนวนสิ่งต่างๆ ออกจากกลุ่มใหญ่ แล้วบอกจำนวนที่เหลือ</span><br /><span style="font-size:130%;">สาระที่ 2 การวัด</span><br /><span style="font-size:130%;">1. การวัดความยาวของสิ่งต่างๆเป็นการหาความยาวตามแนวนอน การวัดความสูงเป็นการหาความยาวแนวตั้ง</span><br /><span style="font-size:130%;">2. การวัดความยาว ความสูง ของสิ่งต่างๆ อาจใช้เครื่องมือวัดที่มีหน่วยไม่ใช่หน่วยมาตราฐาน</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ยาวกว่า สั้นกว่า สูงกว่า เตื้ยกว่า /ต่ำกว่า ยาวเท่ากัน/สูงเท่ากัน เป็นคำที่ใช้ในการเปรียบเทียบความยาว /ความสูงของสิ่งต่างๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">4. การรียงลำดับความยาว/ ความสูง อาจเรียงจากน้อยไปหามากหรือมากไปน้อย</span><br /><span style="font-size:130%;">5. การชั่งน้ำหนักของสิ่งต่างๆอาจใช้เครื่องวัดชั่งน้ำหนักที่มีหน่วยไม่ใช่มาตราฐาน</span><br /><span style="font-size:130%;">6. หนักกว่า เบากว่า หนักเท่ากัน เป็นคำที่ใช้ในการเปรียบเทียบน้ำหนักของสิ่งต่างๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">7. การเรียนงลำดับน้ำหนักของสิ่งต่างๆอาจเรียงจากน้อยไปหามากหรือจากมากไปหาน้อย</span><br /><span style="font-size:130%;">8. การตวงของสิ่งต่างๆ อาจใช้เครื่องมือตวงที่มีหน่วยไม่ใช่หน่วยมาตราฐาน</span><br /><span style="font-size:130%;">9. ปริมาตรมากกว่า ปริมาตรน้อยกว่า ปริมาตรเท่ากัน เป็นคำที่ใช้ในการเปรียบเทียบปริมาตรของสิ่งต่างๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">10. การเรียงลำดับปริมาตรของสิ่งต่างๆ อาจเรียงจากน้อยไปหามาก หรือจากมากไปหาน้อย</span><br /><span style="font-size:130%;">11. เงินเหรียญและธนบัตร เป็นสิ่งที่ใช้ในการซื้อขาย</span><br /><span style="font-size:130%;">12. ตัวเลขที่ด้านหลังเงินเหรียญ บอกค่าของเงินเหรียญแต่ละเหรียญ</span><br /><span style="font-size:130%;">13. ตัวเลขที่อยู่บนธนบัตร บอกค่าของธนบัตรแต่ละฉบับ</span><br /><span style="font-size:130%;">14. บาท เป็นหน่วยของเงินไทย</span><br /><span style="font-size:130%;">15. เวลาแต่ละวันแบ่งเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ คือ กลางวันและกลางคืน</span><br /><span style="font-size:130%;">16. เช้า เที่ยง เย็น เมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้ เป็นคำที่ใช้บอกช่วงเวลาต่างๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">17. 1 สัปดาห์ มี 7 วันเรียงลำดับดังนี้ วันอาทิตย์ วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์</span><br /><span style="font-size:180%;">4).จงอธิบายขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นในการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย</span><br /><span style="color:#ff0000;">ตอบ</span> <span style="font-size:130%;">ทักษะสังเกต จำแนกและเปรียบเทียบเป็นทักษะเริ่มต้นในการเรียนและเป็นทักษะพื้นฐานในการเรียนคณิตศาสตร์</span><br /><span style="font-size:130%;">1. ทักษะเกี่ยวกับตัวเลขและจำนวนเด็กสามารถเปรียบเทียบจำนวนมากกว่า น้อยกว่า เท่ากัน การเพิ่มหรือลดลงของจำนวนหรือปริมาณได้</span><br /><span style="font-size:130%;">1. ความรู้สึกเชิงจำนวน เกิดขึ้นเองภายในของแต่ละคนเกี่ยวกับจำนวน การใช้จำนวน ตีความจำนวนได้หลากหลาย รวมทั้งความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหา</span><br /><span style="font-size:130%;">2. พัฒนาการเกี่ยวกับจำนวน การพัฒนาความคิดรวบยอดของเด็ก</span><br /><span style="font-size:130%;">- ขั้นก่อนการนับ เข้าใจแต่ยังไม่สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน</span><br /><span style="font-size:130%;">- ขั้นความเข้าใจเชิงอันดับที่ เข้าใจคำถามว่าอันไหนใหญ่ที่สุด</span><br /><span style="font-size:130%;">- ขั้นความเข้าใจเชิงการนับ</span><br /><span style="font-size:130%;">- ขั้นความเข้าใจหลากหลายระหว่างจำนวน</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ทักษะพื้นฐานเกี่ยวกับจำนวน</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ทักษะเชิงมิติสัมพันธ์</span><br /><span style="font-size:130%;">1. รูปทรงและพื้นที่</span><br /><span style="font-size:130%;">- เรขาคณิต สัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน เช่น ลักษณะบ้าน รูปร่างของกล่อง</span><br /><span style="font-size:130%;">- เรขาคณิตไปใช้ในการจัดประสบการณ์</span><br /><span style="font-size:130%;">- พัฒนาทักษะการคิด 4 ขั้นตอน 1. ระลึกได้ 2. พื้นฐาน</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ขั้นวิเคราะห์ 4. ขั้นสร้างสรรค์</span><br /><span style="font-size:130%;">- การให้เหตุผลแบบอุปนัยกับนิรนัย</span><br /><span style="font-size:130%;">- พัฒนาความคิดโดยการให้เหตุผล เปิดโอกาสให้เด็กค้นหา</span><br /><span style="font-size:130%;">2. จุด เส้น มุม และระนาบ</span><br /><span style="font-size:130%;">3. รูปเรขาคณิต 2 มิติ กับ 3 มิติ</span><br /><span style="font-size:130%;">4. ทักษะการวัด</span><br /><span style="font-size:130%;">1. ธรรมชาติของการวัด</span><br /><span style="font-size:130%;">2. ความยาวและอาณาเขต</span><br /><span style="font-size:130%;">3. น้ำหนัก</span><br /><span style="font-size:130%;">4. เวลาและเงิน</span><br /><span style="font-size:130%;">5. ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์</span><br /><span style="font-size:130%;">- การแก้ปัญหา</span><br /><span style="font-size:130%;">- การให้เหตุผล</span><br /><span style="font-size:130%;">- การเชื่อมโยง</span><br /><span style="font-size:130%;">- ภาษาและการสื่อสาร</span><br /><span style="font-size:130%;">- คิดริเริ่มสร้างสรรค์</span><br /><span style="font-size:130%;">6. ภาษา คำศัพท์และสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์</span><br /><span style="font-size:130%;">- ภาษากับการพัฒนาความคิดรวบยอด</span><br /><span style="font-size:130%;">- ภาษากับการแก้ปัญหา</span><br /><span style="font-size:130%;">- ภาษาและคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์</span><br /><span style="font-size:180%;">5.) ท่านมีวิธีการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยอย่างไรได้บ้าง พร้อมยกตัวอย่างกิจกรรม<br /></span><span style="color:#ff0000;">ตอบ </span><span style="font-size:130%;">วิธีการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดได้พูดเกี่ยวกับคำศัพท์ใหม่ๆ และให้เขาได้สร้างความคิดรวบยอดได้ การฝึกหัดและการมีส่วนช่วยงานบ้านในชีวิตประจำวัน คือ วิธีการหนึ่งที่เด็ก จะรู้สึกสนุกกับการเล่นสิ่งของเครื่องใช้ในบ้านและช่วยเหลืองานบ้าน เช่น จัดโต๊ะอาหาร ไปจับจ่ายซื้อของ ให้อาหารสัตว์เลี้ยง ทำแซนวิช เก็บของให้เข้าที่ กิจกรรมใดๆ ที่เปิดโอกาสให้มีการวางแผน จัดแบ่งหมวดหมู่ จับคู่ เปรียบเทีย หรือจัดลำดับ ล้วนมีคุณค่าทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเด็กจะยังเล็กเกินกว่าจะเข้าช่วยงานบ้านที่คุณกำลังทำ คุณก็สามารถปล่อยให้พวกเขาได้เฝ้าดูคุณทำและพูดคุยถึงสิ่งที่คุณกำลังทำก็ได้ เช่น การเล่นชุดแม่ครัวหัวป่า วิธีการเล่นมีดังนี้ประกอบด้วยของเล่นต่อไปนี้กะทะพลาสติกเล็กๆ เพื่อใช้ประกอบอาหารหรือกะทะของจริงขนาดเล็กๆก็ได้เตาและตู้เก็บของจากวิธีทำข้างล่างนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถทำเองได้ง่ายๆ</span><br /><span style="font-size:130%;">1. หากล่องขนาดใหญ่ที่แข็งแรง (เช่น กล่องโทรศัพท์ ตู้เย็น) แล้วปิดฝาทุกด้านให้สนิท</span><br /><span style="font-size:130%;">2. ปะกระดาษแข็งบนฝากล่องด้านบนเพื่อให้มีพื้นที่เรียบ</span><br /><span style="font-size:130%;">3. ใช้มีดกีรดเจาะฝากล่องด้านหนึ่งทำเป็นประตูเปิดปิด</span><br /><span style="font-size:130%;">4. ทา/พ่นสี ให้ทั่วเอให้สวยงามทนทาน (สีปลอดสารพิษ)</span><br /><span style="font-size:130%;">5. วาดรูปวงกลมเล็กๆ บนฝากล่องทำเป็นรูปเตา พร้อมทั้งวาดรูปปุ่มที่กดเปิดปิดเหมือนของจริง</span><br /><span style="font-size:130%;">6. ทำที่เปิดปิดประตูตู้อบด้วยกระดาษแข็งจามจัวอย่างในรูป</span><br /><span style="font-size:130%;">7.อ่างล้างชามเล็กๆและถังน้ำ หาซื้อได้จากร้านค้าทั่วไป<br /></span>วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553<br /><a name="4303786740890211131"></a><br /><a href="http://lek501.blogspot.com/2010/03/blog-post_07.html"><span style="font-size:130%;">กิจกรรมที่ให้ความรู้ผู้ปกครองในการส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับคณิตศาสตร์</span></a><span style="font-size:130%;"><br />เมื่อประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อาจารย์ก็ได้สั่งงานไปก็คือ กิจกรรมที่ให้ความรู้ผู้ปกครองในการส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ซึ่งอาจารย์ก็ได้สั่งมานานมากๆแล้ว พอบังเอิญได้ไปเปิดดูสมุดจดการบ้าน แทบตกใจเลย Oh my god พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เราลืมงานที่อาจารย์สั่งไปได้อย่างไรพอดีวันนี้มีโอกาสก็เลยนั่งเซิร์ตๆหาไปเรื่อยๆก็พลันสายตาไปเจอเข้ากับเว็บๆหนึ่ง เป็นหัวข้อเรื่อง คณิตคิดสนุก เริ่มที่บ้าน ถ้าหากสนใจเพิ่มเติมลอง </span><a href="http://earthanfield.multiply.com/journal/item/39"><span style="font-size:130%;">Click</span></a><span style="font-size:130%;"> เข้าไปดูนะคะเนื้อหาโดยทั้งหมดเป็นการบรรยายโดย อาจารย์สุรัชน์ อินทสังข์ จากภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง บรรยายพิเศษ เรื่อง "ผู้ปกครองกับการส่งเสริม การเรียนรู้</span><a href="http://4.bp.blogspot.com/_CjtA2Z26le8/S5IitEMPHEI/AAAAAAAAAQ8/ze0egxu1Rxg/s1600-h/cooking+with+mom.jpg"></a><span style="font-size:130%;">คณิตศาสตร์ด้วยตนเองที่บ้าน"เมื่อลองอ่านแล้วมีอยู่ประโยคหนึ่งที่ อาจารย์สุรัชน์กล่าวคือ "คณิตศาสตร์ซ่อนอยู่ในหลายๆ ที่ ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น หนังสือพิมพ์ ในห้องครัว ในสวน สนามเด็กเล่น เป็นต้น เมื่อผู้ปกครองพบเห็นอะไร ก็สามารถเก็บประเด็นแล้วนำมาพูดคุยกับลูกหลานได้ หรือหากิจกรรมสนุกมาทำร่วมกันในครอบครัวและให้เด็กมีส่วนร่วมด้วย เช่น เล่นเกมทางคณิตศาสตร์ เข้าครัวทำอาหาร เป็นต้น"จากที่อาจารย์กล่าวมานั้นถ้าเราลองคิดดีๆคณิตศาสตร์มีอยู่ทุกแห่งจริงๆ ทั้งในชีวิตประจำด้วย ตั้งแต่เราตื่นนอนจนถึงหลับไปอีกรอบ ก็เป็นคณิตศาสตร์แล้ว ก็คือเรื่องของเวลานั่นเองว่าจะตื่นกี่โมง นอนกี่โมง หรือเรื่องของกลางวัน กลางคืนอ.สุรัชน์ ยังยกตัวอย่างกิจกรรม ให้ผู้ปกครองและเด็กทำเยลลีด้วยกัน ซึ่งทำได้ไม่ยาก และเด็กก็จะได้เรียนรู้ทักษะการชั่ง ตวง วัด ว่าหากต้องการผงเยลลีเท่านี้ ผสมน้ำเท่านั้น จะมีวิธีตวงได้อย่างไร หรืออาจพลิกแพลงสูตรที่ต่างออกไป เช่น ลองใส่น้ำมากขึ้นหรือน้อยลง และเยลลีที่ได้จะมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง เด็กก็จะได้เรียนรู้อีกว่าควรจะใส่ส่วนผสมในปริมาณเท่าไหร่จึงจะได้เยลลีที่อร่อยที่สุดหรือชักชวนลูกหลานไปจ่ายตลาดด้วยกัน เด็กๆ ก็จะได้ฝึกวางแผนว่าจะต้องซื้ออะไรบ้าง ในปริมาณเท่าไหร่ และปริมาณเท่านี้คิดเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ เป็นการให้เด็กได้ฝึกคำนวณเลข นอกจากนี้เวลาที่เดินทางไปยังที่ต่างๆ ซึ่งจะพบป้ายบอกระยะทางได้ทั่วไป ก็สามารถหยิบยกเอามาเป็นโจทย์ให้เด็กฝึกคิดเลขได้ไม่ยากเพียงกิจกรรมเล็กๆน้อยๆเราก็สามารถทำร่วมกันทั้งพ่อแม่ลูกได้แล้ว แค่การทำอาหารง่ายๆก็สามารถเรียนรู้คณิตศาสตร์ไปในตัวได้แล้ว ซึ่งกิจกรรมให้ความรู้ปกครองที่กล่าวมานั้น ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ และเพื่อนๆก็อย่าลืมว่า คณิตศาสตร์มีอยู่ทุกแห่งจริงค่ะ วันนี้ก็ขอไว้แค่นี้ก่อนนะคะ จ้ายเจี้ยนค่ะ </span>panghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-67541253640940568972010-03-08T03:36:00.000-08:002010-03-08T03:37:14.287-08:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh_cwg8-hSNHtNm2WFS4V99gfVYof44MbuiHUWAZAAYq9hSHWJFs5pRP7grJJ5Yp9hL5TZ-CCxd2lL36HQRjhqNihdKcAgIyITP177DLV9WMayA0XniY2jgGBXyVXwd496IrI-49im8uQs/s1600-h/__2_~1%5B1%5D.JPG"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5446225651736969266" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 320px; CURSOR: hand; HEIGHT: 179px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh_cwg8-hSNHtNm2WFS4V99gfVYof44MbuiHUWAZAAYq9hSHWJFs5pRP7grJJ5Yp9hL5TZ-CCxd2lL36HQRjhqNihdKcAgIyITP177DLV9WMayA0XniY2jgGBXyVXwd496IrI-49im8uQs/s320/__2_~1%5B1%5D.JPG" border="0" /></a><br /><div></div>panghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-2162324957474496242010-03-07T23:12:00.000-08:002010-03-07T23:33:42.509-08:00แผนการจัดประสบการณ์หน่วยเรื่องดอกไม้ ชั้นอนุบาล 1<br />จุดประสงค์<br />1.ถ้าเราต้องการจะซื้อดอกไม่ได้ต้องหาซื้อได้จากที่ไหน<br />2.สามารถบอกแหล่งที่พบเห็นดอกไม้ได้ว่าที่ไหน<br />สาระการเรียนรู้สาระที่ควรเรียนรู้<br />1.สถานที่ๆพบดอกไม้<br />2.การรู้ค่าและความหมายของจำนวน 5ประสบการณ์สำคัญด้านร่างกาย-การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ด้านอารมณ์-การแสดงออกอย่างสนุกสนานด้านสังคม-การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น-การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นด้านสติปัญญา-การรับรู้ผ่านสื่อเช่น ของจริง (ดอกกุหลาบ ) กิจกรรมการเรียนรู้<br />ขั้นนำ(ควรเป็นการนำเข้าสู่บทเรียน ที่สร้างความคุ้นเคย เช่น เพลง) ครูสอนให้เด็กพูดตามเพลง แล้วร้องเพลงตาม หลังจากนั้นให้ร้องเพลงพร้อมกัน<br />ขั้นสอน<br />1.ครูและเด็กๆร่วมกันสนทนาถึงชื่อดอกไม้ที่เด็กๆรู้จัก และให้เด็กเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับดอกไม้ให้เพื่อนฟัง โดยครูใช้คำถามดังนี้- ในเพลงมีดอกไม้อะไรบ้าง-แล้วที่บ้านใครปลูกดอกไม้บ้าง<br />2. ครูและเด็กร่วมกันสรุปแหล่งที่พบเห็นดอกไม้<br />3.ครูนำดอกไม้บางชนิดมาให้เด็กสังเกต เช่น ดอกกุหลาบ แล้วจึงถามเด็กว่าเคยเห็นดอกไม้เหล่านี้มั้ยค่ะ ถ้าเคยเห็นเด็กเคยเห็นที่ไหนให้เด็กๆบอกคุณครูว่าเด็กสามารถเอาดอกไม้ที่เด็กๆพบเห็นมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้างค่ะ<br />ขั้นสรุป<br />ครูและเด็กๆร่วมกันสรุปชื่อและนับจำนวนดอกไม้อีกครั้ง<br /> แหล่งการเรียนรู้/สื่อ<br />1.ของจริง (ดอกกุหลาบ ดอกทานตะวัน ดอกมะลิ ดอกดาวเรืองดอกกล้วยไม้)<br />2. ตะกร้า<br />3.เพลงผลจ้ำจี้ดอกไม้ ดาวเรืองหงอนไก่ จำปีจำมะลิพิกุล กุหลาบชบา บานชื่นกระดังงา เข็มแก้วลัดดา เฟื่องฟ้าราตรี<br />ประเมินผลการเรียนรู้<br />1.สังเกตความสนใจการมีส่วนร่วมในการเรียน<br />2.ฟังการแสดงความคิดเห็นการตอบคำถามpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-90281830647640238642010-03-07T07:37:00.000-08:002010-03-07T07:38:35.213-08:00<span style="color:#ff0000;">วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553</span><br /><a name="4797783515126654915"></a><br /><a href="http://lek501.blogspot.com/2010/03/18-2553.html"><span style="color:#6600cc;">บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553</span></a><br />วันนี้เป็นการเรียนการสอนในคาบสุดท้ายค่ะ ซึ่งมีการเรียนการสอนในวันนี้มีลายละเอียด คือ-การสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยแต่ละหน่วยควรสอนอย่างไร ให้สอดคล้องกับพัฒนาการ-การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดการเรียนรู้เป็นการจัดสภาพแวดล้อมที่เด็กสามารถเรียนรู้ได้จากกิจกรรมที่หลากหลายตามความสนใจและความสามารถของเด็ก-เทคนิคการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย เช่น แบบสังเกต เป็นต้นและอาจารย์ได้สั่งงานให้เขียนบันทึกครั้งสุดท้ายลงใน blog เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเขียนบันทึกจากที่ได้เรียนมาทั้งหมดเป็นการสรุป ค่ะสำหรับบรรยากาศในการเรียน ก็เป็นการเรียนการสอนครั้งสุดท้ายอาจารย์ก็ให้คำแนะนำในการเรียนการสอนดีเหมือนเดิม อากาศเย็นสบายเอื้อต่อการเรียนรู้ค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-13601461852620957152010-03-07T07:08:00.000-08:002010-03-07T07:37:16.772-08:00<span style="color:#ff9966;">วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553</span><br /><span style="color:#33cc00;">เพลงและคำคล้องจองคณิตศาสตร์</span><br />1.กลอนหนึ่ง-สอง<br />หนึ่ง สอง มือตีกลอง ตะแล๊ก แทร๊กแทร๊ก<br />สาม สี่ ดูให้ดี<br />ห้า หก ส่องกระจก<br />เจ็ด แปด ถือปืนแฝด<br />เก้า สิบ กินกล้วยดิบ ปวดท้องร้องโอย โอย<br />2.กระรอกบอกข่าว<br />กระรอก กระรอก เจ้ามาบอกข่าว<br />ขนนุ่ม หางยาว มากันกี่ตัว<br />หนึ่ง สอง สาม สี่ อยู่นี่เป็น ห้า<br />รีบบอกข่าวมา ไม่ต้องตื่นกลัว<br />กระรอกบอกข่าว ว่าฝนจะตก<br />ตัวสั่นงันงก ส่งเสียงรัว รัว<br />3.ขวดห้าใบ<br />ขวดห้าใบวางอยู่บนกำแพง (ซ้ำ)<br />เราเอาหินปาไปให้มันกลิ้งตกลงมา<br />คงเหลือขวดกี่ใบวางอยู่บนกำแพง ลดลงเหลือสี่<br />(ลดจำนวนขวดลงไปตามลำดับ จนกระทั่งเหลือขวดหนึ่งใบ)<br />ไม่มีขวดเหลือเลยวางอยู่บนกำแพง จะทำอย่างไรกันดี<br />4.จับปู<br />หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า จับปูม้ามาได้หนึ่งตัว<br />หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ปูมันหนีฉันต้องสั่นหัว<br />กลัว ฉันกลัว ฉันกลัว ปูหนีบที่หัวแม่มือ<br />ลา ล้า ลา ..............................................<br />5.ซ้าย-ขวา<br />เราใช้อะไร อ๋อมือสองข้าง<br />ซ้าย ขวา ใช้ต่าง กันบ้างนิดหน่อย<br />มือขวาถนัดกว่า เพราะว่าใช้บ่อย<br />มือซ้ายใช้น้อย ไม่ค่อยถนัดเอย<br />6.ซ้าย-ขวา<br />ปรบมือข้างซ้าย (ปรบมือทางซ้าย 2 ครั้ง)<br />ปรบมือข้างขวา (ปรบมือทางขวา 2 ครั้ง)<br />พวกเรามาสนุกเฮฮา ปรบมือข้างซ้าย ปรบมือข้างขวา<br />7.ซ้าย-ขวา<br />เราปักชื่อที่เสื้อด้านขวา ด้านซ้ายนั้นหนามีกระเป๋า<br />เราจำจากเสื้อของเรา เสื้อของเขาก็มีขวา-ซ้ายเอย<br />8.ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง-กลาง-หนา-บาง<br />แม่กระต่ายเดินมา นำหน้าลูกน้อย<br />เดินตามต้อยต้อย สีขาวอยู่หลัง<br />สีดำน่าดู เดินอยู่ตรงกลาง<br />ทางซ้ายหญ้าบาง ทางขวาหนาเอย<br />9.เท่ากัน-ไม่เท่ากัน<br />ช้างมีสี่ขา ม้ามีสี่ขา<br />คนเรานั้นหนา สองขา ต่างกัน<br />ช้างม้า มีขา สี่ขา เท่ากัน<br />แต่กับคนนั้น ไม่เท่ากันเอย<br />10.นกกระจิบ<br />นั่นนกบินมาลิบลิบ นกกระจิบ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า<br />อีกฝูงบินล่องลอยมา หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ตัว<br />11.นกสิบตัว<br />นกสิบตัวเกาะอยู่บนกิ่งไม้<br />ตัวหนึ่งบินไปเหลือเก้าตัว<br />(ลดจำนวนนกลงไปตามลำดับ จนกระทั่งเหลือนกหนึ่งตัว)<br />นกหนึ่งตัวเกาะอยู่บนกิ่งไม้<br />พอมันบินไปก็ไม่มีนกเหลือเลย<br />12.นับนิ้วมือ<br />นี่คือนิ้วมือของฉัน มือฉันนั้นมีสิบนิ้ว<br />มือซ้ายฉันมีห้านิ้ว มือขวาก็มีห้านิ้ว<br />นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า นับต่อมา หก เจ็ด แปด เก้า สิบ<br />นับนิ้วนั้นจงอย่ารีบ นับหนึ่งถึงสิบจำให้ขึ้นใจ<br />13.บน-ใต้<br />ฉันนอน บนเตียง ส่งเสียง แจ๋วแจ๋ว<br />หนูห่ม ผ้าแล้ว ไว้กัน ลมหนาว<br />นอนดิ้น ไปมา ฝันว่า คว้าดาว<br />ตื่นมา แสนหนาว ผ้าตก ใต้เตียง<br />14.บน-ใต้-ใกล้-ไกล<br />ลูกเป็ดยืนอยู่ใกล้ ฟางกองใหญ่ใกล้ริมทาง<br />ลูกหมาวิ่งส่ายหาง ยังอยู่ห่างไกลออกไป<br />ลูกนกผกโผบิน แล้วบินเกาะบนไม้ใหญ่<br />กระต่ายขาวแสนตกใจ วิ่งมาใต้ต้นไม้เอย<br />15.บวก-ลบ<br />บ้านฉันมีแก้วน้ำสี่ใบ ครูให้อีกสามใบนะเธอ<br />มารวมกันนับดีดีซิเออ ดูซิเธอรวมกันได้เจ็ดใบ<br />บ้านฉันมีแก้วน้ำเจ็ดใบ หายไปสามใบนะเธอ<br />ฉันหาแก้วแล้วไม่เจอ ดูซิเออเหลือเพียงสี่ใบ<br />16.เป็ดห้าตัว<br />เป็ดน้อยห้าตัวเตาะแตะตามกัน เดินเพลิดเพลินมาในไพวัลย์<br />ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ แม่เรียกเสียงดัง เป็ดน้อยสี่ตัวกลับมาน่าชัง<br />(ถึงไม่กลับเลยแนะเออน่าชัง)<br />แม่เป็ดขนงามเดินตามลูกไป ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ กึกก้องในไพวัลย์<br />ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ แม่เรียกเสียงดัง เป็ดน้อยห้าตัวกลับมาดีจัง<br />17.มาก-น้อย<br />แม่ให้ เงินพี่ วันนี้ ห้าบาท<br />แต่ฉัน ได้ขาด สองบาท ใช่ไหม<br />ฉันได้ สามบาท น้อยกว่า เสียใจ<br />พี่ได้ มากกว่า ยิ้มร่า ยินดี<br />18.มาก-น้อย,เท่า-ไม่เท่า,สูง-ต่ำ,สั้น-ยาว<br />มีเด็กสองคน วิ่งวนเลี้ยงไก่<br />คนสูงถือไม้ อันยาวหนักหนา<br />มีไก่สิบตัว มากจนลายตา<br />อีกคนน้อยกว่า ห้าตัววิ่งไว<br />นับไก่น่าขัน เท่ากันหรือไม่<br />ห้าตัว สิบตัว รีบนับเร็วไว<br />สูง-ต่ำมีไก่ ไม่เท่ากันเลย<br />19.แม่ไก่-ลูกไก่<br />หนึ่ง สอง สามและสี่ แม่ไก่มี<br />ลูกสี่ตัวลูกจ๋าอย่าทำชั่ว จงเกรงกลัวเรื่องบาปกรรม<br />ลูกเจี๊ยบต่างรักแม่ จึงมีแต่เชื่อฟังคำ<br />ทำดีทุกเช้าค่ำ หากทำชั่วจะเป็นทุกข์<br />แม่มองเจี๊ยบทั้งสี่ เป็นเด็กดีแล้วมีสุข<br />จึงร้องว่า “กุ๊ก กุ๊ก” แม่รักลูกทุกทุกตัว<br />20.แม่ไก่ออกไข่<br />แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง<br />แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน หนึ่งวันได้ไข่หนึ่งฟอง (นับต่อไปเรื่อยๆ)<br />แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน สิบวันได้ไข่สิบฟอง<br />21.แม่ค้าข้าวหลาม<br />แม่ค้าแม่ค้าข้าวหลาม ซื้อ หนึ่ง สอง สาม ราคาเท่าไร<br />ขอซื้ออีก สี่ ห้า หก ข้าวหลามกลิ้งตกรีบเก็บไวไว<br />ซื้อหกขอแถมอีกหนึ่ง ไปจิ้มน้ำผึ้งอร่อยเหลือใจ<br />22.ลูกแมวสิบตัว<br />ลูกแมวสิบตัวไต่อยู่บนหลังคา ตัวหนึ่งกระโดดตุ๊บลงมาเหลือลูกแมวเก้าตัว<br />(ลดจำนวนลงไปตามลำดับจนกระทั่งเหลือหนึ่งตัว)<br />ลูกแมวตัวหนึ่งไต่อยู่บนหลังคา พอมันกระโดดลงมาบนหลังคาก็ไม่มีแมว<br />23.ลูกแมวสิบตัว<br />ลูกแมวสิบตัวที่ฉันเลี้ยงไว้ น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว<br />ลูกแมวสิบตัวก็เหลือน้อยลง นับดูใหม่เหลือลูกแมวเก้าตัว<br />(ลดจำนวนลงไปตามลำดับจนกระทั่งเหลือหนึ่งตัว)ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว<br />ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง นับดูใหม่ไม่เหลือ<br />ลูกแมวสักตัว<br />24.ลูกหนู<br />ลูกหนูตัวหนึ่งซ่อนอยู่ในตู้ อีกตัวตามมาดูรวมเป็นสองตัว<br />(นับขึ้นเรื่อยๆจนครบสิบ)<br />25.สั้น-ยาว<br />ไม้บรรทัด ของฉัน อันยาว เท่านี้<br />ดินสอ ของพี่ สั้นกว่า ใช่ไหม<br />ยางลบ ของน้อง ยิ่งสั้น ลงไป<br />ไม้บรรทัด นี่ไง ยาวกว่า ใครเลย<br />26.สูง-เตี้ย<br />เสาธง ตรงแน่ว เห็นแล้ว ใช่ไหม<br />มีเสา ชาติไทย ผูกไว้ นั่นหนา<br />เสาธง สูงเด่น มองเห็น งามตา<br />ต้นไม้ เตี้ยกว่า เสาสูง จริงเอย<br />27.หนัก-เบา<br />นั่นแน่ใบไม้ ปลิวลมไปมา<br />สบายจริงหนา เพราะเบาเหลือใจ<br />ก้อนหินอยู่นิ่ง กลิ้งไปไม่ได้<br />หนักกว่าใบไม้ ลมแรงไป<br />28.หนา-บาง<br />โต๊ะเรียน ของฉัน นั้นทำ ด้วย<br />ไม้ไม้หนา เห็นไหม ฉีกไม่ ขาดเลย<br />กระดาษ ของฉัน นั้นบาง เหลือเอย<br />ฉีกนิด ขาดเลย ไม้หนา น่าชม<br />29.หน้า-กลาง-หลัง<br />เรือใบ สีแดง แล่นแซง ขึ้นหน้า<br />เรือใบ สีฟ้า ตามมา อยู่กลาง<br />เรือใบ ลำไหน แล่นอยู่ ข้างหลัง<br />สีขาว ช้าจัง อยู่หลัง สุดเลย<br />30.หนึ่ง-สอง-สาม<br />หนึ่ง สอง สาม เป็นยามปลอด สี่ ห้า ลอดรั้วออกไป<br />หก เจ็ด แปด แดดแจ่มใส เก้า สิบ ไวไววิ่งไล่กัน<br />สิบเอ็ด สิบสอง รีบย่องกลับ สิบสาม สิบสี่ หลับแล้วฝันสิบห้า<br />สิบหก ตกเตียงพลัน สิบเจ็ด สิบแปด นั้นฉันหัวโน<br />31.ใหญ่-เล็ก<br />มาลี เดินมา เห็นหมา ตัวใหญ่มาลี ร้องไห้ ตกใจ กลัวหมาเห็นแมว ตัวน้อย ค่อยค่อย ก้าวมาแมวเล็ก กว่าหมา มาลี ไม่กลัว<br />32.ใหญ่-เล็ก,อ้วน-ผอม<br />หนูนิดเป็นพี่ ดูซิตัวใหญ่<br />อ้วนกว่าหนูใหม่ ตัวเล็กเป็นน้อง<br />หนูใหม่นั้นหนา ผอมกว่าเป็นกอง<br />นิดหนักกว่าน้อง ใหม่ผอมตัวเบา<br />33.อ้วน-ผอม<br />มีเด็ก คนหนึ่ง ซึ่งเขา กินมาก<br />ลุกนั่ง ลำบาก เพราะอ้วน เกินไป<br />ส่วนเด็ก อีกคน ไม่กิน อะไร<br />จนผอม เหลือใจ ไม่มี เรี่ยวแรง<br />34.เพลงกำมือ<br />กำมือขึ้นแล้วหมุนหมุน ชูมือขึ้นโบกไปมา<br />(ซ้ำทั้งประโยค)<br />กางแขนขึ้นและลง พับแขนมือและไหล่<br />กางแขนขึ้นและลง ชูขึ้นตรงหมุนไปรอบตัว<br />35.เพลงหนอนผีเสื้อ<br />หนอนตัวน้อยๆ ค่อยๆ คลืบคลาน<br />ค่อยๆ คลืบคลานหาอาหารกิน<br />หนอนกินใบไม้ มันกินมันกิน<br />กินไม่หยุดยั้ง ทั้งวันทั้งคืน<br />หนึ่งสัปดาห์กว่า มันเติบโต<br />เปลี่ยนแปลงมาโข สร้างเปลือกหุ้มตัวไว้<br />สองสัปดาห์ดักแด้เปลี่ยนไป<br />สู่ชีวิตใหม่เป็นสีเสื้อแสนงาน<br />36.เพลงข้างขึ้นข้างแรม<br />ค่ำคืนข้างแรม เห็นดวงดาวแจ่มกระจ่างฟ้า<br />ด้วยเดือนเลื่อนลา เลื่อนลา ลับตาจากไป<br />จากไปนานครึ่งเดือน ก็กลับมาเยือนฟ้าใหม่<br />ค่ำคืนเดือนหงาย พระจันทร์สุกใสเต็มดวง<br />37.เพลง ยืนตัวตรง<br />ยืนตัวให้ตรง ก้มหัวลงตบมือแผะ<br />แขนขวามอยู่ไหน หันตัวไปทางนั้นแหละ<br />ยืนตัวให้ตรง ก้มหัวลงตบมือแผะ<br />แขนซ้ายอยู่ไหน หันตัวไปทางนั้นแหละ<br />38.เพลงสามฤดู<br />ฤดูฝนต้นเดือนเมษา<br />ฤดูหนาวราวเดือนพฤษจิกา<br />ฤดูร้อนเริ่มราวเดือนมีนา<br />สามฤดูเวียนมาในรอบหนึ่งปี<br />39. หนึ่งปีมีสิบสองเดือน<br />หนึ่งปีนั้นมีสิบสองเดือนอย่าลืมเลือนจำไว้ให้มั่น<br />หนึ่งสัปดาห์นั้นมีเจ็ดวัน<br />อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์<br /><br />ถือไม้อันสั้น เขานั้นตัวต่ำ(เตี้ย)panghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-31192549464380771542010-03-06T06:10:00.000-08:002010-03-06T06:11:59.634-08:00<span style="color:#663300;">ตารางกิจกรรมประจำวัน กำหนดไว้โดยประมาณดังนี้</span><br />07.00 น.รับนักเรียนเป็นรายบุคคล<br />08.00 น.เข้าแถวเคารพธงชาติ/ กิจกรรมธรรมคีตา / กายบริหาร<br />08.30 นั่งสมาธิ / ให้การอบรม<br />08.40 น.กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม / กิจกรรมเสริม (ตารางของแต่ละห้อง)<br />09.10 น.รับประทานอาหารว่าง<br />09.20 น.จัดกิจกรรม 6 กิจกรรม / กิจกรรมเสริม (ตารางของแต่ละห้อง)<br />11.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน / แปรงฟัน / ทำภาระกิจส่วนตัว<br />12.00 น.นอนหลับพักผ่อน1<br />4.00 น.ตื่นนอน / เก็บที่นอน / ทำภาระกิจส่วนตัว<br />14.30 น.ดื่มนม / ทบทวนบทเรียน<br />15.00 น.เตรียมตัวกลับบ้านหมายเหตุ ตารางกิจกรรมประจำวัน สามารถปรับให้เหมาะสมกับเวลา เหตุการณ์ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี สภาพชุมชน และท้องถิ่น ทั้งนี้ต้องมีครบทุกกิจกรรมpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-15235031460999890972010-03-06T06:06:00.000-08:002010-03-06T06:09:37.311-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2009/12/praticum-1.html"><span style="color:#cc0000;">เกร็ดข้อมูล Praticum 1 ด้านสื่อการสอนคณิตศาสตร์</span></a><br />วันพุธ, ธันวาคม 16, 2009เกร็ดข้อมูล Practicum 1 ด้านสื่อการสอนคณิตศาสตร์ Practicum 1 นี้ดิฉันได้สังเกตที่โรงเรียนบางบัวตั้งตรงจิตร์วิทยาคาร)ค่ะที่นี้มีระดับชั้นอนุบาล 1-2 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบบรูณาการ ในแต่ละห้องก็มีการจัดมุมสำหรับเด็กๆอยู่มากมายค่ะ สื่อการสอนก็หลากหลายอย่างเช่นสื่อคณิตศาสตร์ก็มีมากพอสมควร บางห้องก้จะแตกต่างออกกันไปบางแล้วแต่ช่วงอายุที่เหมาะสมกับสื่อนั้นๆและจะทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ทุกวันค่ะ ซึ่งระยะเวลาการสังเกต10วันที่ผ่านมาทำให้ได้ประสบการณ์นอกห้องเรียนมากมายและได้เก็บเกี่ยวความรู้จากครู อาจารย์ และพี่ฝึกสอนที่นั้นด้วยค่ะ มันทำให้เราสามารถนำความรู้ที่ได้ในครั้งนี้ไปใช้กับในอนาคตการเป็นครูค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-34338993239267089982010-03-06T06:03:00.000-08:002010-03-06T06:04:27.263-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/7-2553.html"><span style="color:#ffff66;">บันทึกเข้าเรียนวันที่ 7 มกราคม 2553</span></a><br />สวัสดีค่ะ เราไม่ได้มีการเรียนการสอนมา 2 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากตรงกับวันสอบกลางภาค และ วันหยุดปีใหม่ วันนี้อาจารย์อธิบายถึง คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย มีหัวข้อดังต่อไปนี้- คำศัพท์ทางคณิตศาสตร์- มาตรฐานการวัดในระบบเมตริก- ลักษณะหลักสูตรที่ดี- หลักการสอน- หลักการสอนทางคณิตศาสตร์- ขอบข่ายทางคณิตศาสตร์สำหรับเนื้อหาโดยสรุปจากการเรียนการสอน คือ- ในเรื่องของตัวเลขนั้น ควรให้เด็กได้คิดเห็น เขียนเอง ควรอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กด้วย เช่น การเขียนวันที่ อายุ เลขห้อง เบอร์โทร น้ำหนัก ส่วนสูง บ้านเลขที่ จำนวนสมาชิกในห้อง จำนวนสมาชิกในบ้าน ฯลฯ - สำหรับมาตรฐานการวัดระบบเมตริก : "ใช้เครื่องมือไม่เป็นทางการในการวัด" เช่น ฝ่ามือ แก้ว กระป๋อง- ความเชื่อมั่นของเด็กจะเกิดขึ้นได้ เมื่อเด็กทำเองด้วยความเต็มใจโดยครูเป็นผู้สนับสนุนและคอยเป็นกำลังใจหลักการสอนคณิตศาสตร์1. สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน เช่น การรินนมครึ่งแก้ว เต็มแก้ว2. เปิดโอกาสให้เด็กพบคำตอบด้วยตัวเอง เช่น กล้วยหนึ่งหวี เด็กกัดกี่คำจึงหมด3. มีเป้าหมายและการาวงแผนอย่างดี4. เอาใจใส่เรื่องการเรียนรู้และลำดับขั้นของพัฒนาการ ความคิดรวบยอด5. ใช้วิธีการจดบันทึกพฤติกรรม6. ใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เดิม7. รู้จักใช้สถานการณ์ขณะนั้นให้เป็นประโยชน์8. ให้เด็กมีส่วนร่วมเกี่ยวกับตัวเลข9. ส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง10 เน้นกระบวนการเล่นจากง่ายไปหายากบรรยากาศในการเรียนหนาวเหมือนทุกครั้งที่เรียนอาจารย์ซักถามเพื่อนนักศึกษา แต่ก็มีบ้างที่ตอบคำถามไม่ได้ แต่อาจารย์ก็จะพูดและยกตัวอย่างให้เข้าใจจนเพื่อนๆสามารถตอบๆได้ อาจารย์ยังสั่งให้นักศึกษาเขียนรายบุคคลแผนการเรียนการสอน โดยมีการคณิตศาสตร์เข้าไปสอดแทรกกับกิจกรรม แล้วส่งE- mail ให้กับอาจารย์ สำหรับในวันนี้ก็ได้ความรู้ไปเยอะมากค่ะคุ้มค่ากับการที่อยู่ไปหลายวันpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-51871923932428598032010-03-06T05:55:00.000-08:002010-03-06T05:58:28.252-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/14-2553.html"><span style="color:#33ccff;">บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 14 มกราคม 2553</span></a><br />วันนี้ได้เปลี่ยนห้องเรียนมาเป็นห้องเรียน มาเป็นห้อง233 ค่ะมันทำให้พวกเราตั้งใจฟังอาจารย์สอนมากกว่าเดิม คงเป็นเพราะว่าไม่มีคอมพิวเตอร์ให้พวกเราแอบเล่นทุกคนจึงมีสมาธิต่อการเรียนและการตอบคำถาม อาจารย์ให้เพื่อนแบ่งกลุ่มละ 5 คนเขียนแผนคนละวัน โดยเลือกหน่วยที่ดีที่สุด แล้วมาเขียนแผนทั้งหมด 5 วัน เปรียบเสมือนครูคนเดียว พร้อมทั้งสรุปเป็น Mind Mepper รวบรวมส่งE- mailเป็นกลุ่มค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-18410585097953782132010-03-06T05:54:00.000-08:002010-03-06T05:55:03.532-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/21-2553.html"><span style="color:#006600;">บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2553</span></a><br />วันนี้เราได้กลับมาเรียนห้องคอมพิวเตอร์อย่างเดิม อาจารย์ตรวจงานที่นักศึกษาส่ง แต่ว่างานของแต่ละคนเปิดไม่ได้ อาจารย์ได้อธิบายเพิ่มเติมในบางส่วนที่ต้องส่งงาน โดยให้นำงานจากเดิมมาแบ่งเป็น 3 ช่วง ตามระดับอายุ แล้วคุยกันว่าจะอยู่ระดับไหน โดยให้มีการแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่มใหญ่ ระหว่างกลุ่ม A และ B กลุ่มของดิฉันเราได้กลุ่มB ค่ะ พวกเราเลือกหน่วยดอกไม้ค่ะ แล้วก็ได้ชั้นอนุบาล 2ด้วยสำหรับงานอีกอย่างหนึ่งที่อาจารย์มอบหมายให้คือ การร้อยลูกปัดเข้ากับลวดกำมะหยี่ แล้วอาจารย์ก็อธิบายว่าการร้อยลูกปัดเกี่ยวกับคณิตศาสตร์อย่างไร จนทุกคนเข้าใจค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-33774547550638658032010-03-06T05:53:00.001-08:002010-03-06T05:53:45.794-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/28-2553.html"><span style="color:#ff6600;">บันทึกการเข้าเรียนวันที่ 28 มกราคม 2553</span></a><br />วันนี้อาจารย์ได้ตรวจงานของนักศึกษาที่ส่งงานในแต่ละกลุ่ม เรื่อง แผนการสอนซึ่งในแต่ละกลุ่มก็ได้เรื่องที่แตกต่างกัน กลุ่ม Aเรื่องแมลงและ กลุ่มB เรื่องดอกไม้ ซึ่งจากการดูงานของนักศึกษาในแต่ละกลุ่มที่ส่งมา อาจารย์ได้ให้นักศึกษาช่วยกันระดมความคิดเห็นเพิ่มเติม ในแต่ละกลุ่ม ซึ่งก็ได้ข้อเสนอแนะ และคำแนะนำต่างๆเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข ให้ได้เนื้อหาที่ครอบคลุม และสมบูรณ์มากกว่าเดิมค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-57156995858340830432010-03-06T05:51:00.000-08:002010-03-06T05:52:35.495-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/4-2553.html"><span style="color:#330099;">บันทึกการเข้าเรียนวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553</span></a><br />วันนี้อาจารย์กำหนดเขียนส่งแผนการสอน แต่พวกเรายังทำไม่ถูกต้องและรายละเอียดพอ อาจารย์จึงเปิดดูงานของแต่ละคนแล้วแนะนำวิธีการสอนและเทคของแต่ละคน มาปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง แล้ววันพุธหน้ามีการเรียนชดเชย โดยให้พวกเราเตรียมการสอนพร้อมสื่ออุปกรณ์ให้เรียบร้อยpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-71110590467412278782010-03-06T05:43:00.000-08:002010-03-06T05:44:09.048-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/10-2553.html"><span style="color:#993399;">บันทึกการเข้าเรียนวัน 10 กุมภาพันธ์ 2553</span></a><br />วันนี้เป็นวันที่พวกเรามีการเรียนการสอนชดเชยค่ะ อาจารย์ให้พวกเรานำเสนอการสอน พร้อมกับแผนการสอน โดยอาจารย์ให้กลุ่ม A หรือB กลุ่มใดก็ได้ออกก่อน แต่อยากให้พวกเราเริ่มตั้งแต่อนุบาล 1 แต่ไม่มีเพื่อนกลุ่มไหนออกก่อน พวกเรากลุ่ม B หน่วย ดอกไม้ อนุบาล 2 เลยออกก่อน พวกเราในกลุ่มตื่นเต้นมากๆค่ะ ต่างคนต่างเตรียมสื่ออุปกรณ์ที่เตรียมมาให้พร้อม พอถึงคิวของดิฉันที่ต้องสอนหน่วย ประโยชน์ของดอกกุหลาบ เป็นการสอนในวันที่ 3 ค่ะ พอสอนไปได้หน่อยหนึ่งอาจารย์ก็คอมเม้นต์ ว่า เรื่องประโยชน์ของกุหลาบน้อยไป และให้ข้อแนะนำถึงเทคนิคการสอนว่าควรปรับให้เป็นนิทานหรือภาพตัดต่อดีกว่า เพราะสิ่งที่เตรียมมา คือ การทำการ์ดวันวาเลนไทน์จากประโยชน์กลีบกุหลาบ ซึ่งมันควรเป็นกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ไม่ใช่กิจกรรมกิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์ และอาจารย์ก็ให้ไปแก้ไขแผนการสอนให้สมบรูณ์ พอเพื่อนๆนำเสนอครบ5 วันแล้ว อาจารย์ก็ให้พวกเราไปปรับเปลี่ยนการสอนที่ให้ต่อเนื่องกัน เปรียบเหมือนการเขียนแผนคนเดียวที่เข้าใจและสอดคล้องกัน หลังจากนั้นก็เป็นกลุ่มอนุบาล 1และ 3 อาจารย์ก็ให้คำแนะนำเทคนิคแตกต่างๆออกกันไปค่ะ ทำให้ดิฉันได้รับความรู้ในการจัดการเรียนการสอนได้มากมาย เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึง 5 โมงเย็นแล้ว เพื่อนๆเริ่มง่วงนอน อยากกลับบ้านกันแล้ว ก็เพราะพวกเราเรียนตั้งแต่เที่ยงจนเย็นนี้แหละ โชคดีมากที่มีประตูเปิดจากคุณป้าแม่บ้าน ให้อาจารย์รีบปล่อยนักศึกษา เพราะวันพุธจะมีการปิดตึกเร็ว อาจารย์ก็เลยให้พวกเรามานำเสนอต่อในวันพรุ่งนี้ตามเวลาเรียนปกติ แล้วอาจารย์ก็ให้พวกเราที่นำเสนอไปแล้วกลับไปแก้ไขแล้วมาให้อาจารย์ตรวจอีกครั้งpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-11812885715276059512010-03-06T05:41:00.000-08:002010-03-06T05:43:18.646-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/02/11-2553.html"><span style="color:#33ff33;">บันทึกการเข้าเรียนวัน 11กุมภาพันธ์ 2553</span></a><br />สวัสดีค่ะวันนี้ก็เป็นอีกวันแล้วนะค่ะ ที่มีการนำเสนอการสอนของกลุ่ม A หน่วย แมลง เพื่อนๆกลุ่มA เทคนิคการสอนที่หลากหลายและแทรกคณิตศาสตร์มากขึ้นด้วย ก่อนที่เพื่อนจะนำเสนออาจารย์ก็ให้พวกเรานักศึกษาลงชื่อ Practicum 2 และอาจารย์แจ้งให้นักศึกษาของ2โรงเรียนที่ต้องย้ายที่ฝึกใหม่ เนื่องจากปัญหาโครงการสหกิจที่กำหนด ตลอดการนำเสนอทั้ง 2 กลุ่มที่ผ่านมา พวกเราได้คำแนะนำมากมายค่ะ และจะนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะนำไปใช้ในการสอนต่อไปให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-73360386310066487022010-03-06T05:33:00.000-08:002010-03-06T05:34:06.860-08:00<a href="http://lek501.blogspot.com/2010/03/18-2553.html"><span style="color:#ff0000;">บันทึกการเข้าเรียน วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553</span></a><br />วันนี้เป็นการเรียนการสอนในคาบสุดท้ายค่ะ ซึ่งมีการเรียนการสอนในวันนี้มีลายละเอียด คือ-การสอนคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยแต่ละหน่วยควรสอนอย่างไร ให้สอดคล้องกับพัฒนาการ-การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดการเรียนรู้เป็นการจัดสภาพแวดล้อมที่เด็กสามารถเรียนรู้ได้จากกิจกรรมที่หลากหลายตามความสนใจและความสามารถของเด็ก-เทคนิคการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย เช่น แบบสังเกต เป็นต้นและอาจารย์ได้สั่งงานให้เขียนบันทึกครั้งสุดท้ายลงใน blog เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการเขียนบันทึกจากที่ได้เรียนมาทั้งหมดเป็นการสรุป ค่ะสำหรับบรรยากาศในการเรียน ก็เป็นการเรียนการสอนครั้งสุดท้ายอาจารย์ก็ให้คำแนะนำในการเรียนการสอนดีเหมือนเดิม อากาศเย็นสบายเอื้อต่อการเรียนรู้ค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-8951019224306009495.post-46067988323441321412010-02-22T00:59:00.000-08:002010-02-22T01:04:08.323-08:00การสอนหน้าชั้นเรียนเมื่อวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2553<br /><br />นักศึกษาทุกคนได้ออกไปสอนหน้าชั้นให้อาจารย์และเพื่อนๆ ดู<br />ก็จะมีกลุ่มดอกไม้ และกลุ่มแมลงค่ะ หลังจากที่สอนเสร็จของแต่ละ<br />คนเสร็จอาจารย์ก็ได้ดูแผนแล้วก็เพิ่มเติมให้ในบ้างอย่างเพื่อให้แผน<br />นั้นถูกและสมบูรณค่ะpanghttp://www.blogger.com/profile/16627808311542682031noreply@blogger.com0